ปัญหาของ “เจ้านาย” ส่วนใหญ่อยู่ที่ใจของลูกน้องมากกว่าเกิดจากตัวเจ้านาย ลองพิจารณาดูดีๆ ว่า ไม่ว่าเราจะมีเจ้านายแบบไหน เราก็ยังสามารถหา ข้อไม่ดีของเจ้านายมาบ่นได้อยู่ดี วันแรกๆที่เข้าไปทำงานกับเจ้านายคนนั้นใหม่ ทุกอย่างดูเหมือนจะสดใสไปหมด แต่พอทำงานไปสักระยะหนึ่ง รู้สึกว่าความสัมพันธ์ทางใจของลูกน้องที่มีต่อหัวหน้าเริ่มเปลี่ยนไป ทั้งๆที่หัวหน้ายังเป็นคนเดิม นิสัยเดิม เพราะใจเราเปลี่ยนไปต่างหาก
เรามักจะหาข้อผิดมาดิสเครดิตทางใจของเจ้านาย เหมือนการแข่งกีฬาที่มีระบบการให้คะแนนแบบเต็มไว้ก่อน แล้วเมื่อทำผิดค่อยนำมาหักทีละจุดๆ เช่น ยิมนาสติกก่อนเล่นทุกคนมีคะแนนเต็มสิบ ถ้าพลาดตรงไหนก็จะถูกหักคะแนนในจุดนั้น (เหมือนรายการทำผิด อย่าเผลอ อะไรทำนองนั้น) สุดท้ายแล้วคนที่เก่งที่สุดคือคนที่ได้คะแนนเสมอตัว (ได้คะแนนเท่ากับคะแนนเต็มที่ให้ไว้) ไม่เหมือนกีฬาบางประเภท เช่น ฟุตบอลมีการนับแต้มที่ทำได้และบวกขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
แน่นอนว่าถ้าเราให้คะแนนเจ้านายแบบยิมนาสติก ดีที่สุดคือเขาจะมีคะแนนในใจเราเพียงแค่เสมอตัว ไม่รักและไม่เกลียด แต่ถ้าเราให้คะแนนเจ้านายแบบฟุตบอล ทำดีเมื่อไหร่ใส่คะแนนบวก ถูกใจเราเมื่อไหร่ก็ใส่คะแนนบวก ถ้าคิดอย่างนี้เจ้านายทุกคนก็มีโอกาสมีกำไรบ้าง ไม่ใช่มีทางเลือกเพียง “เจ๊า” กับ “เจ๊ง” ในสายตาของลูกน้อง ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงปัญหาเจ้านายไม่ได้ เราก็มีทางเลือก คือ
ทะเลาะกับเจ้านาย
วิธีการบริหารเจ้านาย คือ
1. เซย์กู๊ดบายไปหาเจ้านายใหม่
2. ทนอยู่จนกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะจากไป
3. เปลี่ยนใหม่หันมาเอาใจนายดีกว่า
4. บริหารเจ้านายซะ
5. ถ้าเราไม่บริหารนาย นายจะบริหารเรา
6. เจ้านายมีหลากประเภท หลายสไตลน์
7. ถ้าบริหารนายได้ จะทำงานง่ายขึ้น
8. นายไม่มีเวลาบริหารตัวเอง เพราะมัวแต่บริหารคนอื่น
9. ถ้าเติบโต เรามีโอกาสโตตาม
10. นายคือเครื่องมือที่ทรงพลังของเรา
11. นายคือฝ่ายการตลาดของเรา
12. เพื่อความสบายใจของเราเอง
13. นายคือทางผ่านของสะพานชีวิต
14. ฝึกซ้อมก่อนที่เราจะเป็นนาย
15. จงเถียงเจ้านายเรื่องความคิดเห็น แต่อย่าเถียงเรื่องข้อเท็จจริง
16. อย่าเอาใจ แต่ต้องรู้ใจ